หน้าแรก » ข่าวทั่วไป » กลุ่มโคกหนองนาโมเดลลงแขกมื้อใหญ่ ที่ท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

กลุ่มโคกหนองนาโมเดลลงแขกมื้อใหญ่ ที่ท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

โพสต์โดย : admin เมื่อ 14 ก.ย. 2564 14:44:24 น. เข้าชม 292 ครั้ง แจ้งลบ

กลุ่มโคกหนองนาโมเดลลงแขกมื้อใหญ่ ที่ท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 นายบัณฑิต บัวชื่น เจ้าของโคกหนองนา โมเดล หมู่ที่ 12 ตำบลท่าขุนราม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดกิจกรรม"ลงแขกมื้อใหญ่" ในเนื้อที่ 3 ไร่ เพื่อเป็นการร่วมแรงร่วมใจและให้กำลังใจ ซึ่งกันและกันของคนโคกหนองนาโดยการรวมกลุ่มเอาแรงพัฒนาโครงการโคก หนองนาให้เป็น ไปตามวัตถุประสงค์ของโคกหนองนาโมเดล คือ เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวืตตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่"โคก หนอง นา โมเดล" เป็นกิจกรรมกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน และภาคเอกชนผ่านการพัฒนาและสนับสนุนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม สร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ การปลูกพืชผสมผสาน ขุดสระเลี้ยงปลา เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในตำบลท่าขุนราม มีครัวเรือนต้นแบบเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ 10 ครัวเรือน โดยวันนี้เรียกว่า"กิจกรรมการเอามื้อ "โดยทุกครัวเรือนจะมาทำงานเพื่อเอาแรงกัน เพื่อร่วมกันพัฒนา ช่วยเหลือซึ่งกัน จากนั้นก็จะวนไปเอาแรงมื้อใหญ่สมาชิกในกลุ่มโคกหนองนาในแปลงอื่นๆของตำบลท่าขุนราม ต่อไป ครัวเรือนละ 3 รอบ วันนี้มีสมาชิกในตำบลท่าขุนรามเข้ามาร่วมเอาแรงมื้อใหญ่จำนวนกว่า 30 คน
ซึ่งในวันนี้ มีนายประจวบ ชมภู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขุนราม นาย ประจวบ ทองเสน กำนันตำบลท่าขุนราม นายสมบุญ กันทะวงษ์ สารวัตรกำนัน นายลือชา ม่วงลาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 นายมงคล ศรีสุพจน์ ส.อบต.ท่าขุราม รวมทั้ง นางภัทรานิษฐ์ ภัทรานิติภูมิ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ พัฒนากรประจำตำบลท่าขุนราม สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมือง นางนปภา สุริยะลังกา และ น.ส.รภัณพัชร์ บุญสอน นักพัฒนาต้นแบบ พร้อมใจกันเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
โคกหนองนาโมเดลนั้นเป็นต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่น้อมนำ พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่นำมาผสมผสานกับเกษตรทฤษฎีใหม่มาบริหารจัดการเรื่องดินและน้ำ ทางด้านการเกษตรที่ใช้พื้นที่ในหนึ่งแปลงแบ่งเป็นทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ปลูกพืชผักสวนครัวให้เกษตรกรอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพานวัฒกรรมใหม่ๆแต่อย่างใดเพื่อมุ่งหวังที่จะเป็นจุดเปลี่ยนทางด้านการเกษตรให้กับเยาวชนในอนาคตของประเทศไทย และเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจ ของประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
Loading the player...

News Update